เนื้อชิ้นนี้ไม่หนามาก เลยใช้ทอดในกระทะเอาแบบง่ายๆ ใช้ที่วัดอุณหภูมิเนื้อเพื่อดูความสุกของสเต็ก#ครัวผจญภัย#5000มื้อให้น้อง#1สูตร1ต้น

พอดีได้เนื้อไทยวากิวมา เป็นเนื้อริบอายแคป น่าจะเป็นส่วนที่อยู่ใกล้ๆ กับริบอาย เนื้อมีมันแทรกเยอะ หั่นมาหนาประมาณ 1 นิ้ว หนากำลังดีเลย เอามาทำสเต็กแบบซูวี ออกมาความสุกมีเดียม เนื้อนิ่มพอสมควร อร่อยมากๆการทำแบบซูวีจะทำให้เนื้อสุกเท่ากันทั้งชิ้น ไม่ใช้ตรงกลางสุกพอดีแต่ด้านบนและล่างสุกเกินไป ทำให้เนื้ออร่อยขึ้นมากๆ เลย#ครัวผจญภัย#คีโต #keto คีโต

การทำสเต็กเนื้อหนาๆ ให้อร่อยและรสชาติดีต้องมีเคล็ดลับครับ อย่างสเต็กชิ้นนี้หนา 1.5" หนักเกือบ 400 กรัม ถ้าย่างสเต็กแบบปกติ เนื้อด้านในจะไม่มีรสชาติอื่นนอกจากรสชาติของเนื้อ เคล็ดลับเวลาทำให้เนื้อมีรสชาติ คือใช้วิธีที่เรียกว่า Dry Brine หรือคือการหมักเหลือแบบแห้ง และเพื่อไม่ให้เนื้อมีรสเค็มจนเกินไป เราจะใช้เกลือ 1% เท่านั้น โรยเกลือทั่วๆ เนื้อ แล้วเข้าตู้เย็นแบบไม่ปิด 24 ชั่วโมง แล้วนำมาย่างหรือซูวีตามปกติ เท่านี้ก็จะได้เนื้อที่มีรสชาติดีทั้งชิ้น#ช่วยมือใหม่เข้าครัว

วิธีทอดสเต็กอีกแบบที่ผมเห็นทาง youtube ผ่านช่อง America's Test Kitchen เขาเรียกวิธีการแบบนี้ว่าเป็นการทอดแบบ cold-searingเป็นวิธีการทอดสเต็กที่บ้านที่เขาว่าดีที่สุด ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ เพียงแค่กระทะเทฟล่อน ไม่ทำให้ควันโขมง ไม่ทำให้น้ำมันกระเด็นเลอะครัว เพียงแต่ควรจะมีที่วัดอุณหภูมิเนื้อไว้ใช้วัดความสุกที่ต้องการสำหรับคนที่ใช้วิธีกดเนื้อเพื่อดูความสุกไม่เป็นคือปกติเวลาทอดสเต็ก จะใช้กระทะตั้งไฟให้ร้อนจัดแล้วถึงจะเอาเนื้อลงไปทอด ควันมาก น้ำมันกระเด็น แต่วิธีนี้จะเอาเนื้อใส่ลงไปในกระทะที่ยังเย็นอยู่ แล้วถึงเริ่มเปิดไฟ จะมีการกลับเนื้อเรื่อยๆ และเมื่อทอดไปซักพักจะลดไฟลงและกลับเนื้อต่อไปเพื่อสร้าง Crust บนเนื้อ วิธีการแบบนี้เวลาทอดสเต็กจะไม่มีควันโขมง จะไม่มีน้ำมันกระเด็นกระดอนไปทั่ว แล้วได้ความสุกของเนื้อค่อนข้างแม่นยำ เพราะมีการวัดอุณหภูมิเนื้อเรื่อยๆ ใช้กระทะเทฟล่อนธรรมดาทำก็อร่อยมีคนที่ทำตามมายืนยันมากมายว่าเป็นวิธีการทอดสเต็กที่บ้านที่ดีที่สุด สามารถทำตามได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เนื้อควรจะมีความหนามากกว่า 1.5 นิ้ว ถึงจะได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด สามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้กับเนื้ออื่นๆ เช่น เนื้อหมู ปลาแซลมอน เป็นต้นเนื้อผมจะหนาแค่ 1" ผมเลยต้องปรับวิธีการเล็กน้อย ไม่งั้นเนื้อจะสุกถึงจุดที่ชอบก่อนที่ด้านนอกเนื้อจะเกรียมแบบที่ชอบ#สูตรฮิตติดบ้าน

สามีบังคับให้กินเนื้อบ้างคือเราไม่ค่อยกินเนื้อสัตว์เหมือนตอนอยู่ตุรกี เราอยู่นี้ชอบกินผักมากกว่า ผักบ้านเราอร่อยทำอะไรได้เยอะใส่เนื้อสัตว์แค่พอประมาณแต่ผักต้องพูนๆ เราก็เลยทำเนื้อแบบที่มันทำให้เรากินง่ายๆแซ่บๆ เลยทำเมนูนี้

เนื่องจากได้เจอกับเนื้อนิวซีแลนด์ลดราคามาครับ!!! เลยซื้อมาสองชิ้นกินกับเพื่อนอีกคน แต่เนื้อที่ซื้อมาเป็นเนื้อค่อนข้างไม่สดเท่าที่ควร เลยไม่กล้าใช้แค่พริกไทยดำกับเกลือ(ฮา) เลยลองหาสูตรจากที่ต่างๆ มาหมักเพื่อลดกลิ่นเนื้อ จนเจอสูตรจากลิ้งค์นี้ครับ http://www.foodbeast.com/news/10-steak-seasonings/ ผมจึงนำสูตรจาก 2 ใน 10 สูตรมาลองดู เพื่อนๆคนไหนอยากลองสูตรอื่นๆในลิ้งค์นี้ สามารถมาแบ่งปันและเล่าสู่กันฟังได้นะครับผม(ปล.สามารถดูสเต็กอีกสูตรได้ตามลิ้งค์นี้นะครับผม https://cookpad.wasmer.app/th/recipes/470931-kalbi-steak?ref=recipe )

สเต็กที่ดีต้องไม่บางจนเกินไป ผิวด้านนอกต้องกรอบ เนื้อด้านในต้องชุ่มฉ่ำ ถ้าเป็นเนื้อวัว ความสุขระดับ medium rare จะได้รสชาติเนื้อที่ดีที่สุด

อยากลองทำสเต็กดูอีกครั้ง ซึ่งหลายๆครั้งที่ผ่านมา ทำออกมาได้ไม่ดีเลย แต่ครั้งนี้เป็นเเล้วเลย เอามาแบ่งบันให้ลองไปทำตามครับ

สเต็กโทมาฮอว์ก หนา 1.5 นิ้ว หนักประมาณ 750 กรัมวันนี้ได้เนื้อสเต็กโทมาฮอว์กมา เป็นชิ้นใหญ่ เอามาทำแบบซูวีด ทำการหมักด้วยผงเครื่องเทศก่อนหนึ่งคืน เข้าเครื่องซวีดโดยตั้งอุณหภูมิที่ 133F ให้ได้เนื้อที่มีความสุกประมาณมากกว่ามีเดียมแรว์นิดหน่อย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาทีจากนั้นเอามาย่างเตาใช้ไฟแรงสุดให้ด้านนอกเกรียมสวยและมีรสชาติและกลิ่นไหม้นิดหน่อย ใช้เวลาข้างละ 1 นาทีพอครับแล่เนื้อออกมาได้เนื้อสีชมพูสวย เนื้อนุ่มมากๆ กินหมดแบบไม่ทันรู้เรื่องเลย ที่สำคัญเป็นเนื้อโคขุนไทยที่ราคาไม่แพงเลย โลละ 450 บาท แต่คุณภาพได้แบบโลละพันกว่าเลย คุ้มมากๆ เคล็ดลับไม่ได้อยู่ที่ซื้อที่ไหน แต่อยู่ที่สั่งให้ตัดหนา 1.5 นิ้วเพื่อทำสเต็ก ทำให้ได้เนื้อที่นุ่มมากกว่าสเต็กที่ตัดมาบางๆ จนถึงหนึ่งนิ้ว ลองมาแล้ว ความนุ่มต่างกันมากสรุปคือเนื้อไทยก็นุ่มได้ ตัดให้หนา หาวิธีการทำให้ถูกต้อง (ผมทำแบบซูวีดง่ายที่สุดแล้ว) ทำให้สเต็กราคาถูกก็นุ่มอร่อยได้เนื้อชิ้นนี้ราคาประมาณ 260 บาทเท่านั้น (ซื้อตอนโปรลดเหลือโลละ 350 บาท หมดโปรไปแล้ว)#ครัวผจญภัย#5000มื้อให้น้อง