แกงฮังเล - Hang leh (Pork curry)

Annop Wichai
Annop Wichai @annopwichai

ทำแกงฮังเลมาสามสี่หม้อแล้ว... แต่ด้วยความขี้เกียจเลยยังไม่ได้เขียนบล๊อกสักที.... จุดประสงค์ที่ทำแกงฮังเลหม้อนี้เพราะเพื่อนของพอลมาจากแคลิฟอเนีย จะมาพักที่บ้าน เลยอยากทำอาหารเลี้ยงต้อนรับ ที่จริงจะมาอาทิตย์หน้าแต่ทำทำแกงเสร็จและแช่ไว้ในตู้แช่... เพราะวันที่ทานกันจริงๆ ก็จะทำอาหารอย่างอื่นอีก เด๋วจะเหนื่อยและทำไม่ทัน... อาหารที่เป็นแกงแบบนี้ แช่แข็งแล้วเอามาอุ่นทานเราว่ามันยิ่งอร่อย...

แกงฮังเลเป็นอาหารที่ลานนาได้รับอิทธิพลมาจากพม่า. ถ้าไปพม่าแล้วสั่งแกงฮินแล (คิดว่าที่พม่าออกเสียงกันอย่างนี้) ก็จะได้อาหารที่คล้ายแกงโฮ๊ะ... ถ้าอยากทานอะไรที่เหมือนแกงฮังเลก็ต้องสั่ง "แวะตาฮีน" แต่ไม่รู้ว่าทำไมเวลาสะกดเป็นภาษาอังกฤษจะเป็นแบบนี้ "Wata Majeedi" (Curry pork with tamarind) เรื่องประวัติอาหารจานนี้ถ้าใครอยากรู้เพิ่มเติมก็ไปเสิร์จเฮียกูก์ เอาเองนะ

ดูเพิ่มเติม
แก้ไขสูตรอาหาร
ดูสถิติ
แชร์

ส่วนผสม

300นาที
20 เสริฟ
  1. หมูสามชั้น(หั่นชิ้นใหญ่ประมาณ2X2นิ้ว) 1 กิโลกรัม
  2. ซี่โครงกระดูกอ่อน 1 กิโลกรัม
  3. ผงฮังเล(ถ้าไม่มีใช้ผงกะหรี่แทนได้) 35 กรัม
  4. มะขามเปียก 200 กรัม
  5. ขิงซอย 200 กรัม
  6. กระเทียม 100 กรัม
  7. หอมแดง 100 กรัม
  8. น้ำอ้อย 2 ช้อนโต๊ะ
  9. เครื่องแกง
  10. พริกเม็ดใหญ่แห้ง 100 กรัม
  11. หอมแดง 150 กรัม
  12. กระเทียม 100 กรัม
  13. ตะไคร้ 3 ช้อนโต๊ะ
  14. ข่า 3 ช้อนโต๊ะ
  15. กะปิหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
  16. เกลือ 1 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

300นาที
  1. 1

    จัดเตรียมเครื่องปรุงทุกอย่างให้พร้อม จะได้ไม่ลืมใส่นั่นลืมใส่นี่... เพราะเกิดกับเราเป็นประจำ

  2. 2

    ทำเครื่องแกง โดยขั้นแรกโขลกพริกกับเกลือ... วิธีที่จะทำให้โขลกพริกได้ไวขึ้นคือหั่นพริกหยาบๆ และใส่เกลือลงไป สาเหตุที่ใช้พริกเม็ดใหญ่เพราะไม่เผ็ดแต่ให้กลิ่นหอมของพริกแทน

  3. 3

    เมื่อพริกแหลกแล้ว ก็ใส่กระเทียม, ข่า, ตะไคร้ และกะปิ, โขลกให้ละเอียดแล้วค่อยใส่หอมแดง... ที่เราใส่หอมแดงทีหลังเพราะถ้าใส่พร้อมเครื่องอย่างอื่นแล้วจะทำให้โขลกยากเพราะมันแฉะ นอกจากนั้นยังทำให้เสียน้ำตาได้อีกด้วย.... เคล็ดลับของการตำให้ง่ายคือ หั่นข่าและตะไคร้ให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนใส่ครก

  4. 4

    ล้างทั้งหมูสามชั้นและกระดูกซี่โครงอ่อนให้สะอาดแล้วใส่ในภาชนะขนาดใหญ่ (ภาษาอังกฤษเรียกว่า Bowl ภาษาไทยน่าจะเรียกว่าชาม..แต่ที่เราไม่แน่ใจเรียกว่าอะไร..ชามขนาดใหญ่แระกัน) แล้วนำพริกแกงที่โขลกใส่ลงไป พร้อมผงฮังเล 4 ซอง.... ผงฮังเล 1 ซองมี 7 กรัม เราใช้ทั้งหมด 5 ซอง ก็เท่ากับ 35 กรัมพอดี

  5. 5

    คลุกเคล้า...คลอเคลีย ให้พริกแกงผสมปนเปให้ทั้งหมูสามชั้นและซี่โครงกระดูกอ่อน... แล้วใช้ M-wrap คลุมไว้แล้วนำไปใส่ตู้เย็น หมักค้างคืนไว้ 1 คืน... M-wrap คือพลาสติกคลุมอาหาร ถ้าใครใช้ยี่ห้ออื่นก็ไม่ว่ากัน, หรือถ้าใครจะเทใส่ทัพเปอร์แวร์แล้วเอาไปใส่ตู้เย็นก็ไม่ว่ากันอีกเช่นเคย... เราใช้พลาสติกคลุมอาหารเพราะจะไม่ต้องได้ล้างอ่ะ

  6. 6

    บ่ายๆ ของวันถัดมา เราเอาหมูที่หมักไว้ออกมา... ตั้งกระทะไฟแรง แล้วเอาหมูลงผัดให้ข้างนอกพอสุก ข้างในช่างมัน... แต่เนื่องจากหมูเยอะและกระทะที่มีมันใหญ่ไม่พอผัดหมูทั้งสองกิโล... เลยต้องผัดสามรอบ... ผัดเสร็จรอบแรกก็เอาหมูใส่หม้อตุ๋นรอเพื่อนหมูรอบสองและรอบสาม....

  7. 7

    หมูสองกิโลกรัมใส่ได้ 2 ใน 3 ของหม้อ คนแทบไม่ได้...

  8. 8

    ไม่ว่าน้ำล้างหม้อ, ล้างชามเปล, ล้างทัพพี... อย่าทิ้ง...เอาใส่ไปในหม้อแกง...ชูรสนักแล (ปล. ใส่น้ำเปล่าเท่านั้น.. ลงไปล้างอุปกรณ์ดังกล่าว... แล้วค่อยเอาไปล้างน้ำยาล้างจานให้สะอาดทีหลัง)

  9. 9

    ในระหว่างที่ตุ๋นหมูก็ทำการปลอกหอมแดงและกระเทียม (ไม่รู้ว่าสูตรอื่นๆ เขาใส่หอมแดงในขั้นตอนนี้ด้วยหรือเปล่า...แต่เราใส่เพื่อเพิ่มความหวานจากหอมแดง) ล้างให้สะอาดแล้วก็ใส่ตุ๋นไปพร้อมกับหมู, ใช้ไฟอ่อนสุด...ใครมีหม้อตุ๋นก็ใช้หม้อตุ๋นจะดีมากๆ... เราไม่มีหม้อตุ๋น เลยใช้กระทะเหล็กที่เขาใช้เสิร์ฟกระทะร้อนมาวางบนเตาก่อนตั้งหม้อตุ๋น...วิธีนี้รับรองว่าตั้งหม้อตุ๋นจนลืมก็ไม่ไหม้ก้นหม้อ...

  10. 10

    ระหว่างตุ๋นมันนาน...ก็ชงจินโทนิคจิบไปด้วย...

  11. 11

    พอตุ๋นได้สามชั่วโมงเราก็เริ่มปรุงโดยใส่น้ำอ้อย, เราซื้อน้ำอ้อยก้อนมาเลยโขลกให้แหลกก่อนใส่ไปในหม้อแกง

  12. 12

    จากนั้นต้มมะขามเปียกชอนเอาแต่น้ำ ปรุงรสแกงฮังเลให้ออกรสเปรี้ยวนิดๆ ... เนื่องจากมะขามแต่ละที่รสเปรี้ยวต่างกัน, ดังนั้นขั้นตอนนี้ต้องใช้การชิมเอาตามใจผู้ปรุง รสชาดของแกงฮังเลตามทัศนคติของผู้เขียนคือ เค็มเปรี้ยวนำ หวานตาม แต่ทั้งนี้ทุกรสต้องกลมกล่อมเข้ากัน...ไม่มีรสไหนนำจัด...

  13. 13

    ขั้นตอนสุดท้าย นำขิงมาล้าง, ขูดเอาเปลือกออก, ล้างอีกที แล้วนำมาหั่นฝอย... เรามีสมาธิสั้น, ขิงหั่นฝอยที่ได้ก็ชิ้นใหญ่ไปนิดส์หนึ่ง แต่ก็ใช้ได้... ถ้าจะให้ดีขิงหั่นฝอยตามอุมดคติต้องมีขนาดประมาณ 0.25x0.25x5 เซ็นติเมตร... เว่อร์วังอลังการณ์ไปหรือเปล่า 55555

  14. 14

    ท๊าดาาาา.... ทั้งกลิ่น, รสชาดและสีสรร ได้ใจไปเลย... เรารอจนกว่าแกงเย็น... แล้วบรรจุภาชนะใส่ตู้แช่ พอเช้าวันที่ 4 มกราคม 2559 (4/1/2016) ก็จะนำออกจากตู้แช่ ทิ้งไว้ทั้งวันรอให้ละลาย แล้วจะตั้งไฟอุ่น อาจจะเติมขิงเพื่อให้ได้รสขิงใหม่สด แล้วเสิร์ฟ....

กดแสดงความรู้สึก

แก้ไขสูตรอาหาร
ดูสถิติ
แชร์

ความคิดเห็น

โพสต์สูตรโดย

Annop Wichai
Annop Wichai @annopwichai
เมื่อ
ชอบทำอาหารทานเองเพราะบางเมนูไปซื้อเขาทานแล้วรสชาดไม่ถูกใจ เนื่องจากเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ตอนเด็กๆ เลยได้เรียนรู้การทำอาหารทานเอง. แต่ก็มีอีกหลายเมนูที่เรียนรู้การทำจากอินเตอร์เน็ตแต่เอามาประยุกต์ใช้เครื่องปรุงที่หาได้ในตลาดใกล้ๆบ้าน ทำหลายๆ ครั้งจนได้รสตามที่ชอบแล้วถึงจะเขียนสูตรเก็บไว้ เผื่อทำเองทีหลังและแบ่งปันให้เพื่อนๆ ที่ชอบทำอาหารทานเอง.
ดูเพิ่มเติม

สูตรอาหารที่คล้ายกัน