น้ำพริกกะปิทานไม่หมดวันก่อนหน้าเลยเก็บเข้าตู้เย็นไว้ ประกอบกับเคยได้ยินเรื่องแกงรัญจวนมาว่าเป็นแกงสมัย ร.5 และเป็นสูตรของหม่อมหลวงเนื่อง คือ น้ำพริกเหลือจะไม่ทิ้ง ต้องไม่กินทิ้งกินขว้าง ต้นตำหรับเห็นว่าใช้เนื้อวัวนะคะ น่าจะอร่อยเข้มข้นดี แต่ว่าบ้านเราไม่ทานเนื้อก็ปรับมาเป็นเนื้อหมูแทนค่ะ ขอบคุณในความเป็นไทยของบรรพบุรุษค่ะ #ตั้งเป้าเราทำได้ เป้าหมายทำทานเอง

แกงโบราณ ที่ค่อนข้างหาทานได้ยาก ที่มาของชื่อ "แกงรัญจวน"เป็นอาหาร ชาววัง ตำรับสวนสุนันทาอีกชนิดหนึ่งซึ่งประยุกต์จากเนื้อที่เหลือในแต่ละวัน มาเป็นกับข้าวชื่อใหม่ เพราะในสมัยก่อน เจ้านายพระองค์ต่าง ๆ จะเสวยพระกระยาหารแต่น้อย แต่ละมื้อ บางทีเสวยแค่ ๑ - ๒ คำ เท่านั้น ทำให้เนื้อเหลือเยอะ นั่นคือ 'แกงรัญจวน' ซึ่งที่มาของชื่อนี้ โดยมีหม่อมเจ้าหญิงแย้มเยื้อน สิงหรา เป็นผู้คิดค้นสูตร ซึ่งนิจ เหลี่ยมอุไร เล่าว่า การทำไม่ได้มีวิธีการที่ยากอะไร เคล็ดลับอยู่ที่การตำน้ำพริกกะปิให้มีรสชาติ เผ็ด เปรี้ยว และเค็ม นำเนื้อมาต้มให้เปื่อย ในที่นี้อาจจะใช้เนื้อหมูได้ จากนั้นใส่น้ำพริกกะปิที่ตำไว้ลงไป ใส่ใบโหระพาตามลงไป ปรุงรสชาติตามรสปาก "ก่อนเสิร์ฟก็แต่งหน้าแกงด้วยใบโหระพาและพริกชี้ฟ้าแดงอีกครั้ง เท่านี้ก็จะได้แกงที่รัญจวนใจจริง ๆ"

แกงรัญจวนเป็นแกงโบราณ มีชื่อที่ดูแล้วเย้ายวนมาก (แต่กลิ่นแกงนี้เย้ายวนให้คดข้าวมากินจริงๆ นะ) เป็นแกงที่เกิดขึ้นครั้งแรกจากห้องเครื่องวังสุนันทา (ข้อมูลจาก หม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ ในหนังสือตำรากับข้าวชาววัง) โดยแกงนี้เกิดจากการนำเนื่อวัวผัดหอมใหญ่ที่เหลือมาแกงใส่กับน้ำพริกกะปิ มาเป็นแกงแสนอร่อยที่ถ้าได้ลองแล้วต้องอยากกินอีกค่ะ

แกงโบราณจากในรั้วในวัง หาทานยาก เจ้าของตำรับคือหม่อมหลวงเนื่อง ที่ประยุกต์ใช้น้ำพริกกะปิเหลือจากมื้อเก่าๆ มารวมกับเนื้อที่ตุ๋นจนนุ่มวันนี้ผู้ใหญ่ที่บ้านรีเควสมา เลยใช้กระดูกอ่อนตุ๋นจนนุ่มแทน น้ำพริกกะปิไม่มี ก็เลยใช้กะปิเผาไฟ ปรุงรสใหม่ในหม้อ วิธีทำก็เลยต้องมีปรับเปลี่ยนบ้าง

เนื้อเค็มแดดเดียวหมักเอง เบื่อน้ำพริกกะปิก็แปลงมาทำแกงรัญจวน

#แกงรัญจวน..เป็นแกงไทยที่ได้น้ำพริกกะปิถ้วยเก่านี่แหละค่ะนำมาปรุงเป็นแกงถ้วยใหม่..รสชาติดีอย่างเหลือเชื่อ#อร่อยอ่อยเหยื่อ

อีกหนึ่งแกงโบราณที่ตกทอดมาจากคุณพ่อของสามี สูตรเดิมใช้เนื้อค่ะแต่เราขอเปลี่ยนวัตถุดิบ เป็นเมนูต่อยอดจากน้ำพริกกะปิเหลือๆได้เลยจ้า จริงๆก็คือต้มยำใส่น้ำพริกกะปิ

แกงนี้เป็นแกงโบราณในสมัยรัชกาลที่5อารมณ์คล้ายๆต้มยำบวกกับเเกงเลียงในสมัยนั้นแต่วัตถุดิบที่ใช้ของเหลือมาทำได้มาจากน้ำพริกที่เหลือใครที่ชอบเนื้อไม่ควรพลาด ความแตกต่างจากต้มยำจะรักเมนูนี้ได้ไม่ยาก

เนื้อตุ๋นเปื่อยๆ ซอสกะปิ#by wuddy หอม รัญจวนใจ

แกงโบราณที่ทำได้ง่ายๆ ใช้เวลาสั้นๆ แต่อร่อยมาก😘

#เขาว่าอาหารชาววัง ทำเช้าหิ้วมากินกลางวัน ทานกับข้าวหุงผสมควีนัว 3 สีกลิ่นและรสมันกลมกล่อม มากแต่ดัดแปลงสูตรโบราณ นิดหน่อย ใส่ขิง แทนข่าตะไคร้ใบมะกรูดตอนตุ๋นกระดูกอ่อนใบพาย กลิ่นรสจะอ่อนนวลๆหอมขิง ไล่โควิดได้ดีแน่สูตรนี้#อาหารคือหลักฐานความรัก #น้ำพริกถ้วยเก่า

สูตรนี้เราตำพริกแกงใต้เอง โดยเอาหลายๆสูตรมารวมกัน ลดทอนหรือเพิ่มบางอย่างตามปริมาณตามที่ตัวเองชอบ (ถ้าทำสำหรับกิน 2 ท่าน พริกแกงจะแบ่งใช้ได้สองครั้งค่ะ)